เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ฉบับนี้ กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัท ฯ สยาม เซย์ซอน จำกัด (“บริษัท ฯ”) ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลซึ่งรวมถึงพนักงานของบริษัท ฯ (“พนักงาน”) และผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ เช่น ผู้รับเหมาที่ใช้บริการของบริษัท ฯ ผู้รับจ้างที่ได้รับการว่าจ้างโดยบริษัท ฯฯ และผู้สมัครงาน (“ผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ”) (รวมเรียกว่า “เจ้าของข้อมูล”)
ก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคลล บริษัท ฯ จะจัดส่งเอกสารแจ้งข้อมูลการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลซึ่งจะอธิบายถึงรายละเอียดของการประมวลผลโดยบริษัท ฯ โดยเฉพาะเจาะจงต่อเจ้าของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ข้อมูลส่วนบุคคลนี้รวมถึงชื่อ อายุและที่อยู่ เพศ อายุ ข้อมูลการติดต่อ สถานะการเกณฑ์ทหาร และข้อมูลอื่นใดที่บริษัท ฯ ร้องขอเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและหน้าที่อื่น ๆ และตามข้อกำหนดในการประกอบธุรกิจและการบริหารจัดการ
ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ
ข้อมูลส่วนบุคคลนี้รวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหวที่บริษัท ฯ อาจยึดถือไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการประมวลผล และจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเจ้าของข้อมูลให้ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษแก่บริษัท ฯ ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษหมายรวมถึงเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม และข้อมูลชีวภาพ (รวมเรียกว่า “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว”)
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ อาจรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางใด ช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้
- จากเจ้าของข้อมูลโดยตรง
- จากบริษัท ฯ คู่สัญญาที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อหรือแทนบริษัท ฯ
- จากแหล่งที่มาทางอ้อมอื่น (เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลที่สาม หรือ แหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
- จากบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลได้มีการอ้างอิงถึง
การใช้คุกกี้
บริษัท ฯ อาจมีการเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้หรือเทคโนโลยีในลักษณะคล้ายกัน เมื่อเจ้าของข้อมูลได้มีการเข้าใช้เว็บไซต์ และ/หรือบริการ หรือผลิตภัณท์ที่มีการให้บริการโดยบริษัท ฯ เพื่อพัฒนาให้เจ้าของข้อมูลได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเข้าใช้เว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการตามที่ได้กล่าวข้างต้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมจากการใช้คุกกี้จะไม่เชื่อมโยงกับข้อมูลที่อาจะระบุตัวบุคคลได้ อย่างไรก็ดีหากบริษัท ฯ มีความจำเป็นจะต้องนำข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปเชื่อมโยงกับคุกกี้ หรือ ข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกัน ทางบริษัท ฯ จะถือว่าคุกกี้ดังกล่าวและข้อมูลที่ได้เชื่อมโยงเป็นข้อมูลส่วนบุคคล
ฐานตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ฐานตามกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลอาจประกอบด้วยข้อใดข้อหนึ่งหรือทั้งหมดดังต่อไปนี้
- ฐานความยินยอม
การประมวลผลข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล หากเจ้าของข้อมูลมี
ความประสงค์จะเพิกถอนความยินยอม สามารถยื่นคำขอไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อมูล
การติดต่อที่แจ้งไว้ด้านล่างนี้
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการประมวลผลข้อมูลตามความยินยอมก่อนการเพิกถอน อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนความยินยอมอาจทำให้เกิดผลทางกฎหมายบางประการ โดยบริษัท ฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงผลดังกล่าวซึ่งจะขึ้นอยู่กับลักษณะการเพิกถอนความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลร้องขอ
- ฐานประโยชน์สำคัญต่อชีวิต
การประมวลผลเป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
- ฐานการปฏิบัติตามสัญญา
การประมวลผลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่เจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
- ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ฯ หรือบุคคลอื่นใด เว้นแต่ในกรณีที่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล และ
- ฐานหน้าที่ตามกฎหมาย
การประมวลผลเป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท ฯ
วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เฉพาะที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
- ในกรณีของพนักงานของบริษัท ฯ
บริษัท ฯ ฯฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานของบริษัท ฯ เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อยืนยันตัวตนของพนักงาน
- เพื่อบริหารจัดการการจ้างงานและความสัมพันธ์ตามสัญญา
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
- เพื่อตรวจสอบภูมิหลังก่อนการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติในการประกอบอาชีพ และประวัติการทำงานกับนายจ้างเดิม และ
- เพื่อจ่ายและประมวลผลการจ่ายค่าตอบแทน ค่าจ้าง เงินเดือน สิทธิประโยชน์และแผนการจ่ายผลตอบแทนเพื่อจูงใจต่าง ๆ รวมถึงการหักภาษีและประกันสังคม
- ในกรณีของผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ
บริษัท ฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อยืนยันตัวตนของบุคคลดังกล่าว
- เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
- เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ตามสัญญา
- เพื่อวัตถุประสงค์ของการเรียกทวงถามหนี้ค้างชำระ
- เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัท ฯ ตามที่ระบุไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
- เพื่อบริหารจัดการข้อมูลลูกค้า ผู้ผลิต ที่ปรึกษา และผู้ร่วมธุรกิจอื่นๆ ของบริษัท ฯ
- เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ฯ บุคคลหรือนิติบุคคลใด
- เพื่อวัดและประเมินความเหมาะสมของผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ กับตำแหน่งงาน และการคำนวณเงินเดือนแรกเริ่ม โบนัส และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของผู้ที่ไม่ใช่พนักงานของบริษัท ฯ หากได้รับการว่าจ้าง
- เพื่อตรวจสอบภูมิหลังก่อนการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบคุณสมบัติในการประกอบอาชีพ และประวัติการทำงานกับนายจ้างเดิม
- เพื่อจ่ายและประมวลผลการจ่ายค่าตอบแทน และ
- เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศต่าง ๆ นอกประเทศไทย
ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกโอนไปยังต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ภายในประเทศซึ่งมีมาตรฐาน
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามระเบียบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
หลักในการคุ้มครองข้อมูล
บริษัท ฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามหลักในการคุ้มครองข้อมูลดังต่อไปนี้
- เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้อย่างชัดแจ้งและชอบด้วยกฎหมาย
- ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะที่เกี่ยวข้องและจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- ในกรณีที่ บริษัท ฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่ไม่จำเป็นและ/หรือไม่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (“ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง”) บริษัท ฯ จะลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องดังกล่าวโดยเร็วที่สุดหลังจากทราบถึงการครอบครอง ของข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
- เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและดำเนินการทุกขั้นตอนตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการประมวลผลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ รวมถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือทำให้เสียหายโดยอุบัติเหตุ และทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมี
ความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม - ตรวจสอบผู้ประมวลผลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่บริษัท ฯ ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ประมวลผลข้อมูลดังกล่าวมีความสามารถเพียงพอในการรักษาความลับและความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัท ฯ จะทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ประมวลผลข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อเป็นการรับรองว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับความคุ้มครองและผู้ประมวลผลข้อมูลจะปฏิบัติตามมาตรฐาน
ความปลอดภัยของข้อมูลของบริษัท ฯ และ - ไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คู่สัญญาของบริษัท ฯ หรือไปยังต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ภายในประเทศซึ่งไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามระเบียบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด (ดู “การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศต่าง ๆ นอกประเทศไทย” ข้างต้น)
การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
หากบริษัท ฯ พบว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล บริษัท ฯ จะรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้า แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับแต่ทราบเหตุ
ในกรณีที่การละเมิดดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล บริษัท ฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงเหตุการละเมิดและจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมกับแนวทางการเยียวยาแก่เจ้าของข้อมูล โดยไม่ชักช้า
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
- บริษัท ฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบของไฟล์ข้อมูลที่เก็บในเซิร์ฟเวอร์ ระบบ และคลังข้อมูลแบบคลาวด์ของบริษัท ฯ และในรูปแบบเอกสารซึ่งเก็บไว้ที่สำนักงานของบริษัท ฯ
- บริษัท ฯ ฯฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตราบเท่าที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม (ดู “วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” ข้างต้น) หรือเมื่อบริษัท ฯ มี
ความจำเป็นต้องดำเนินการตามความต้องการทางธุรกิจที่มีอยู่และชอบด้วยกฎหมาย - เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท ฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสาร รวมถึงบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทันที หรือทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุตัวตนได้
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัท ฯ ขอสงวนสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม ในที่นี้หากเจ้าของข้อมูลไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัท ฯ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป สามารถแจ้งบริษัท ฯ เพื่อขอถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลเมื่อใดก็ได้ตามได้ระบุไว้ใน “สิทธิส่วนบุคคล” ด้านล่าง
สิทธิส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลทุกรายมีสิทธิต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของตนซึ่งรวมถึงสิทธิดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้รับการประมวลผลตามฐานความยินยอม
- สิทธิในการเข้าถึงและขอให้ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งทำให้เจ้าของข้อมูลสามารถรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ข้อมูลที่เกี่ยวกับมาตรการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลของผู้รับหรือประเภทของผู้รับที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเหตุผลและระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการลบ ทำลาย และทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการระงับมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
- สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และ
- สิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่บริษัท ฯ ฝ่าฝืนข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฯ อาจเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ได้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่สำคัญหรืออาจส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ บริษัท ฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรับปรุงใหม่ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลบังคับใช้จริง ทั้งนี้ บริษัท ฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลตรวจสอบรายละเอียดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้อย่างสม่ำเสมอ
คำถามและข้อสงสัย
หากเจ้าของข้อมูลต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิการคุ้มครองข้อมูล สามารถติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตาม “ข้อมูลการติดต่อ” ด้านล่าง
ข้อมูลการติดต่อ
หากเจ้าของข้อมูลต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อบริษัท ฯ ได้ตามข้อมูลการติดต่อด้านล่าง
ข้อมูลการติดต่อ
บริษัท โปร-แอ็ค มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ปส์
ที่อยู่: 23/8 ม.11 ตำบลไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี 11150
โทรศัพท์: 02-922-3732 -3
อีเมล : proactsale@gmail.com